นิดนึงค่ะ

วันเสาร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2555

ประชาชนธรรมดา
จะจับกุมผู้กระทำผิดได้หรือไม่


โดยปกติแล้วการจับกุมผู้กระทำผิดนั้นเป็นอำนาจและหน้าที่ของเจ้าพนักงานซึ่งคำว่า เจ้าพนักงานที่ว่า
นี้มีความหมายกว้างขึ้นอยู่กับกฎหมาย ในแต่ละเรื่องนั้นจะบัญญัติให้ใครเป็นเจ้าพนักงาน เช่นเจ้าหน้าที่
ศุลกากรเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายศุลกากร มีอำนาจหน้าที่ในการจับกุมความผิดเกี่ยวกับการขนสินค้าหนี
ภาษี เจ้าหน้าที่สรรพสามิตเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายสรรพสามิต มีอำนาจหน้าที่จับกุมความผิดเกี่ยวกับ
สรรพสามิต ฯลฯ เป็นต้น ส่วนตำรวจ นายอำเภอ ปลัดอำเภอ นั้น จัดอยู่ในประเภทพนักงานฝ่ายปกครองมี
อำนาจหน้าที่จับกุมความผิดได้ทุกประเภท แม้ว่าความผิดนั้นๆ จะมีเจ้าพนักงานโดยเฉพาะอยู่แล้วก็ตาม เช่น
ความผิดตามกฎหมายศุลกากร กฎหมายสรรพสามิต ตำรวจ นายอำเภอ ปลัดอำเภอ ก็ยังมีอำนาจหน้าที่ในการ
จับกุมได้
สำหรับประชาชนหรือที่เรียกว่าราษฎรธรรมดานั้น โดยปกติไม่มีอำนาจและหน้าที่ในการจับกุมผู้ใด
ได้ เพราะประชาชนธรรมดาไม่ได้เป็นเจ้าพนักงาน
แต่อย่างไรก็ดีกฎหมายไม่ได้ห้ามเด็ดขาดตายตัวว่ามิให้ประชาชนธรรมดาจับกุมผู้กระทำผิดโดยสิ้น
เชิงบทบัญญัติที่เป็นข้อยกเว้นไว้ให้ประชาชนธรรมดามีอำนาจที่จะจับกุมผู้กระทำผิดได้เฉพาะในบางกรณีดังต่อ
ไปนี้เท่านั้น
๑. เมื่อเจ้าพนักงานร้องขอให้ช่วยจับ
กรณีนี้จะต้องเป็นเรื่องที่มีหมายจับอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นความผิดฐานใดก็ตามและเจ้าพนักงานผู้มีหน้า
ที่จัดการตามกฎหมายหรือจับตามหมายจับนั้นได้ร้องขอให้ประชาชนธรรมดาช่วยจับกุมผู้กระทำผิดที่หมายจับ
ระบุไว้ ข้อนี้ต้องพึงระวังให้ดีว่าถ้าเป็นกรณีที่เจ้าพนักงานจะจับกุมโดยไม่มีหมายจับแม้เจ้าพนักงานจะร้องขอ
ให้ประชาชนธรรมดาช่วยจับ ประชาชนธรรมดาก็ไม่มีอำนาจในการจับกุม
มีข้อสังเกตว่าคำร้องขอของเจ้าพนักงานเช่นนี้ไม่ถือเป็นคำสั่งของเจ้าพนักงานดังนั้น ประชาชนผู้ได้
รับคำร้องขอจะปฏิบัติตามคำร้องขอนั้นหรือไม่ก็ได้
๒. เมื่อพบการกระทำผิดซึ่งหน้าเฉพาะความผิดประเภทที่กฎหมายระบุไว้
กรณีนี้ประชาชนผู้พบการกระทำผิดนั้นสามารถเข้าทำการจับกุมได้ทันทีโดยไม่ต้องคอยให้เจ้า
พนักงานร้องขออย่างไรก็ดีอำนาจในการจับกุมของประชาชนธรรมดาตามข้อ ๒ นี้ค่อนข้างจะมีขอบเขตจำกัด
อยู่เฉพาะแต่ความผิดประเภทที่ระบุไว้ในท้าย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเท่านั้นและต้องเป็นกรณี
ที่พบการกระทำผิดซึ่งหน้าอีกด้วย ซึ่งเงื่อนไขข้อนี้นับว่าเป็นปัญหาอยู่ไม่น้อยสำหรับผู้ที่ไม่เคยเรียนกฎหมาย
มาก่อนเพราะจะไม่ทราบความหมายแค่ไหน เพราะถ้อยคำนี้เป็นคำทางกฎหมาย ซึ่งมีความหมายเฉพาะไม่จำ
เป็นต้องนำมาเขียนในที่นี้ แต่จะขอนำเอาความผิดซึ่งหน้าที่ระบุอยู่ในบัญชีท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญาเฉพาะที่พบอยู่เสมอเพื่อเป็นแนวทางในการจดจำ
􀁓 ความผิดต่อเจ้าพนักงาน
􀁓 ความผิดฐานหลบหนีจากที่คุมขัง
􀁓 ความผิดต่อศาสนา
􀁓 ความผิดปลอมแปลงเงินตรา
􀁓 การก่อการจลาจล
􀁓 ข่มขืนกระทำชำเรา
􀁓 ทำร้ายร่างกาย
􀁓 ฆ่าคนตาย
􀁓 หน่วงเหนี่ยวกักขัง
􀁓 ลักทรัพย์
􀁓 วิ่งราวทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ กรรโชกทรัพย์
๓. เมื่อประชาชนผู้เป็นนายประกันผู้ต้องหาหรือจำเลยที่ได้หลบหนี้ประกัน หรือจะหลบหนี
ประกัน
โดยเฉพาะเมื่อไม่สามารถจะขอความช่วยเหลือจากเจ้าพนักงานให้จับกุมได้ทันท่วงทีเท่านั้น
การจับกุมประชาชนธรรมดา ตามที่กล่าวมาทั้ง ๓ กรณีนี้เป็นเพียงอำนาจตามกฎหมาย ที่จะจับกุม
ได้เท่านั้น ไม่ใช่เป็นหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติ และถ้าเป็นกรณีอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมานี้ประชาชนธรรมดาก็
ไม่มีอำนาจทำการ จับกุมผู้กระทำผิดได้เลย
ผลทางกฎหมาย
กรณีที่ประชาชนธรรมดามีอำนาจตามกฎหมายที่จะจับกุมผู้กระทำความผิดได้ดังกล่าวมาในข้อ ๑-๓
นี้ ประชาชนผู้ทำการจับกุมย่อมได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเช่น ไม่มีความผิดฐานทำให้ผู้ถูกจับเสื่อมเสีย
อิสรภาพเสรีภาพหรือหากผู้จะถูกจับนั้นต่อสู้ขัดขวางประชาชนผู้จับก็มีอำนาจใช้กำลังป้องกันตนได้พอสมควร
แก่เหตุ
ในทำนองกลับกัน ถ้าเป็นกรณีไม่มีอำนาจจับกุมได้ตามกฎหมาย ผู้จับก็ต้องมีความผิดฐาน ทำให้
เสื่อมเสียเสรีภาพ และอาจมีความผิดฐานอื่นติดตามมากมาย เช่น บุกรุก ทำร้ายร่างกาย ฯลฯ เป็นต้น

ที่ทา http://www.moj.go.th/upload/main_law/uploadfiles/429_3515.pdf

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น