นิดนึงค่ะ

วันพุธที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เอไอเอส-ดีแทค คุยอนุฯคุ้มครองผู้บริโภคฯ หาข้อยุติปัญหาพรีเพด

เอไอเอส-ดีแทค ส่งตัวแทนหารือ อนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านโทรคมนาคม หวังหาข้อยุติปัญหากำหนดวันใช้บริการพรีเพด ประธานอนุกรรมการ เผยที่ประชุม เสนอสองทางเลือก พร้อมจุดยืนชัดเจน เสนอไม่มีวันหมดอายุ หรือหากบริษัทจะกำหนดวัน ก็ต้องเป็นธรรมไม่เร่งให้ผู้บริโภคต้องเติมเงิน

นางสาวสารี อ๋องสมหวัง ประธานอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคม เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้มีการหารือร่วมกับ ตัวแทน บริษัท แอดวานซ์อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส และตัวแทนบริษัท โทเทิ่ลแอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค เนื่องจากบริษัท เอไอเอส ต้องการทราบแนวทางแก้ปัญหาเกี่ยวกับการกำหนดระยะเวลาการใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบชำระค่าบริการล่วงหน้า หรือ พรีเพด เพื่อแสวงหาความร่วมมือและข้อยุติร่วมกัน โดยมีอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคมที่เข้าร่วม ได้แก่ นายศรีสะเกษ สมาน นายศิริศักดิ์ ศุภมนตรี และ นายวิบูลย์ บุญภัทรรักษา

ผลของการหารือที่ประชุมได้เสนอทางออกเป็น 2 ทางเลือก ทางเลือกแรก คือ การไม่กำหนดระยะเวลาการใช้บริการโทรศัพท์แบบเติมเงิน คือ ให้เป็นไปตามประกาศ กทช.เรื่อง มาตรฐานของสัญญาให้บริการโทรคมนาคม พ.ศ.2549 ข้อ 11 วิธีการนี้ คือ หากผู้บริโภคยังมีเงินเหลืออยู่ในระบบ ก็มีสิทธิที่จะใช้บริการได้ตลอดโดยไม่ถูกกำหนดวัน ซึ่งไม่กระทบกับผู้บริโภคที่ใช้บริการระบบเติมเงิน แต่จะกระทบกับผู้ที่เก็บเลขหมายไว้กับตัวเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีการใช้งาน ซึ่งอาจมีการกำหนดระยะเวลาที่ต้องมีความเคลื่อนไหวของการใช้บริการ เช่น หากไม่มีความเคลื่อนไหวของการใช้บริการภายในกี่เดือน ผู้ให้บริการจะสามารถหักค่าบริการในการรักษาเลขหมายได้ในอัตราที่เป็นธรรมทั้งสองฝ่าย เพื่อเป็นการแก้ปัญหาการถือครองเบอร์ และปัญหาเลขหมายไม่เพียงพอ

“การเคลื่อนไหวหมายถึงไม่ว่าจะโทร.ออกหรือรับสาย ก็ถือว่าเป็นความเคลื่อนไหว เพราะมีการได้สตางค์เกิดขึ้นในวงจรธุรกิจ ก็มาหาข้อตกลงกันอย่างเดียว ว่า สมมติว่า เป็นระยะเวลา 1 ปี ต้นทุนที่จะตัดกับผู้บริโภคหากเบอร์ไม่เคลื่อนไหวเลยเป็นเท่าไหร่ ก็ต้องยินดีให้ตัด โดยมูลค่าการตัดต้องพิจารณาจากต้นทุนที่แชร์ความรับผิดชอบกันระหว่างผู้บริโภคและบริษัทด้วย”

ทางเลือกที่สอง คือ หากจะต้องมีการกำหนดระยะเวลาการใช้บริการ เนื่องจากบริษัทมีต้นทุนเช่น ค่าบริหารเลขหมาย การดูแลลูกค้า การพัฒนาโครงข่าย ก็ต้องยืนอยู่บนหลักการ 3 ข้อ คือ 1.จำนวนวันขั้นต่ำที่กำหนดควรเป็นระยะเวลาที่เป็นเหตุเป็นผลไม่เร่งรัดการใช้บริการ เช่น 3 วัน 5 วัน ดังเช่นปัจจุบัน 2.มีการกำหนดวันเป็นขั้นบันได คือ จำนวนวันผันแปรตามจำนวนเงินที่เติม และ 3.หากมีเงินเหลือในระบบ ต้องคืนให้กับผู้บริโภค แต่ทั้งหมดก็ต้องมาขออนุญาตกสทช.หากไม่ขออนุญาตก็มีวันหมดอายุไม่ได้

“เอไอเอส ชี้แจงปัญหาเรื่องต้นทุน ขณะที่ ดีแทค กลัวปัญหาเรื่องการกระจุกตัวของเลขหมายที่ไม่พอใช้ ดังนั้น หากกำหนดวัน จำนวนวันที่กำหนดต้องเป็นอัตราที่ไม่เร่งรัดให้ผู้บริโภคต้องเร่งเติมเงิน เช่น หาก 100 บาท ได้ 30 วัน 50 บาท ก็จะได้ 15 วัน ลดหลั่นลงไป เพราะปัจจุบันการกำหนด 10 บาท ต้องใช้ภายใน 1 วัน ถือว่าเร่งรัดเกินไป วันที่กำหนดจึงควรมีลักษณะที่เป็นธรรม ซึ่งการหารือในวันนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่บริษัท เอไอเอส เป็นฝ่ายขอหารือกับอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคฯ และเสนอที่จะร่วมกันคิดเพื่อแก้ปัญหานี้ ตั้งแต่การผลักดันปัญหานี้ในยุค สบท.ซึ่งถือเป็นเรื่องดีในการทำงานร่วมกัน เพราะทางบริษัท ทรูมูฟ จำกัด ได้เคยมาร่วมหารือไปแล้ว แต่จะแจ้งผลของการประชุมกับสองบริษัทในวันนี้ไปให้รับทราบด้วย”

ที่มา http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9550000060987

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น